ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศแผนกลยุทธ์ประจำปี 2560 ขับเคลื่อนด้วยวิสัยทัศน์ “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone” รับจดทะเบียนบริษัท
ตลท. ตั้งเป้าขยายการระดมทุนให้ครอบคลุมอุตสาหกรรม s-curve ที่แข่งขันได้ ธุรกิจสตาร์ทอัพ รวมถึงสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมสูงวัยของไทยในด้านการสร้างความมั่งคั่ง ตอกย้ำพันธกิจของ ตลท. สู่ความทั่วถึงและเติบโตอย่างยั่งยืน
โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาตลาดทุนสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย พร้อมสร้างรากฐานให้กับตลาดทุน เศรษฐกิจ สังคม และประเทศชาติไทย ตามโมเดลเศรษฐกิจใหม่ของรัฐบาล “ประเทศไทย 4.0”
โดยจะเน้นเจาะจงไปที่การแสวงหาอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง พร้อมๆ กับการสร้าง
ระบบนิเวศที่เอื้อต่อบริษัทสตาร์ทอัพในการระดมทุน
ตลท.และพันธมิตรมุ่งสร้างวัฒนธรรมการลงทุนผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล
พร้อมส่งเสริม Investment Saving Plan (ISP) เพื่อให้คนไทยพร้อมรับ
สังคมสูงวัยที่กำลังจะมาถึง ในขณะที่ ตลท. จะเดินหน้าจัดหาและพัฒนา
โครงสร้างพื้นฐานและขีดความสามารถที่เป็นเลิศตามแนวทางสากล
นอกจากนี้ ตลท. ในฐานะตัวเชื่อมต่อระดับภูมิภาคจะร่วมกับกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และ
เวียดนาม (CLMV) เพื่อเปิดตัวดัชนี CLMV เพื่อส่งเสริมธุรกิจที่มีศักยภาพสูงใน
ภูมิภาค
นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการ ตลท. กล่าวว่า ตลาดทุนเป็น
ปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ ในปี 2560 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้
กำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาตลาดทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อความยั่งยืน
และการเติบโตอย่างครอบคลุมสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด
ซึ่งจะเป็นการตอกย้ำ “โมเดลเศรษฐกิจประเทศไทย 4.0” ของรัฐบาล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
เกศรา มัญชุรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ตลท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลท. ได้กำหนด
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ปี 2560 เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและทั่วถึง โดยครอบคลุม 3
ด้าน ได้แก่
- ผู้เพาะปลูกที่ระดมทุน: เพื่อขยายโอกาสในการระดมทุนผ่านแนวทางต่างๆ
– ดึงดูดหลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่ที่เน้น
อุตสาหกรรมและคลัสเตอร์ที่แข่งขันได้ของไทย เช่น อาหารและพลังงาน กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานของรัฐวิสาหกิจ
และหุ้นสามัญ ตลอดจนการจดทะเบียนในต่างประเทศที่มีศักยภาพ
พร้อมให้ความรู้ในการระดมทุนแก่รายย่อยและขนาดกลางที่มีศักยภาพการเติบโต
สูง – องค์กรขนาดใหญ่และบริษัทสตาร์ทอัพ
– ยกระดับคุณภาพและขีดความสามารถของบริษัทจดทะเบียนด้วยการอำนวยความสะดวกด้าน
เครื่องมือระดมทุน รวมทั้งสนับสนุนให้นำ
หลักการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) มาใช้ นอกจากนี้ ตลท.จะเพิ่มขีดความสามารถของ
กิจการเพื่อสังคมผ่านโครงการต่างๆ ได้แก่ “SET Social Impact
Platform” แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เชื่อมโยงทั้งธุรกิจและนักลงทุนเพื่อ
ประสานความร่วมมือ นอกจากนี้ยังจะเพิ่มความพยายามในการยกระดับ
การยอมรับในระดับสากลให้กับบริษัทจดทะเบียนผ่านโรดโชว์ “Dow Jones Sustainability
Indices” (DJSI) “MSCI Index” และ “CLMV Index” ที่กำลังจะมีขึ้น
– สร้าง Startup Ecosystem เสริมความรู้และความพร้อมในการ
ระดมทุน ทั้งนี้ มีแผนเปิดตัว
แพลตฟอร์มการซื้อขายสตาร์ทอัพในไตรมาส 3/2560 โดยภาพรวม ตลท.คาดว่าจะเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดผ่าน
การเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 280,000 ล้านบาท และผ่านบริษัทจดทะเบียนที่มีอยู่
270,000 ล้านบาท รวมเป็นเงินบาท 550 พันล้าน ตามเป้าหมายข้างต้น
อุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูงคาดว่าจะมีส่วนร่วม 25 เปอร์เซ็นต์ของการจดทะเบียนใหม่
- Investment Cultivator ยกระดับการลงทุนและพัฒนาความรู้
ด้านการลงทุนหุ้น กองทุนรวม และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล
– ส่งเสริมวัฒนธรรมการลงทุนด้วยการสร้างฐานนักลงทุนระยะยาว
เพื่อรองรับสังคมสูงวัย ทั้งนี้ ตลท.และพันธมิตรจะส่งเสริม
ISP ผ่านแอปพลิเคชันออนไลน์ พร้อมสร้าง Investment Portal เพื่อเป็น
ศูนย์กลางความรู้การลงทุนหลายกลุ่มสินทรัพย์
– ให้ความรู้คนไทยกระจายการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและ
สนับสนุนให้นายจ้างเลือกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับลูกจ้าง
– เปิดตัว “FundConnext” แพลตฟอร์มบริการกองทุนด้วยเทคโนโลยี
ช่วยให้ผู้ลงทุนเข้าถึงกองทุนรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ (มีนาคม 2560) ตลท.มีแผน
พัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อเป็นนายทะเบียนกลาง
กองทุน สำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับ
สำหรับกลยุทธ์ในส่วนนี้ ตลท. ตั้งเป้าหมายดึงดูดนักลงทุนรายย่อย
จากตลาดตราสารทุนและอนุพันธ์ 110,000 ราย - โครงสร้างพื้นฐานและความสามารถที่ยอดเยี่ยม
เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของตลาดทุนและสร้างมาตรฐานการปฏิบัติงาน รวมทั้งเชื่อมโอกาสการลงทุนกับตลาดโลกผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ได้แก่ –
พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง เช่น สถาปัตยกรรมแบบเปิดและ
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ตามมาตรฐานสากล
– สร้างมาตรฐานการชำระราคาหลักทรัพย์ เตรียมเปิดรอบ
2 วันทำการชำระราคาซื้อขายหลักทรัพย์ (T+2)
– ประสานความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคในการจดทะเบียนต่างประเทศ
“แผนยุทธศาสตร์ปี 2560 ของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยสร้าง “S-curve” ใหม่ โดยเอื้อให้
อุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันใหม่เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้นและเพิ่ม
ศักยภาพให้กับบริษัทสตาร์ทอัพ ซึ่งสอดคล้องกับ
นโยบายของรัฐบาลในการผนึกกำลังของภาครัฐและเอกชนเพื่อยกระดับ
การพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย” ชัยวัฒน์ให้ความเห็น
ในปี 2559 ตลท. บรรลุเป้าหมายสำคัญและรักษาตำแหน่งผู้นำใน
อาเซียน โดยดัชนี SET อยู่ในกลุ่ม ASEAN-5 ดีที่สุด โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ที่ 1,485.68
จุด (ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2559) มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ 53,440 ล้าน
บาท สูงสุดในอาเซียน 5 ปีซ้อน มูลค่าหลักทรัพย์ ตามราคาตลาด
ของการจดทะเบียนใหม่ในการเสนอขายครั้งแรกมีมูลค่ารวม 136,660
ล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มอาเซียน 5 ในขณะที่การระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนจาก
ตลาดรองมีมูลค่ารวมกัน 273,470 ล้านบาท (ณ สิ้นเดือนตุลาคม)
มูลค่าตลาดรวมของ SET และตลาดหลักทรัพย์
เอ็ม เอ ไอ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากสิ้นปีก่อน เป็น 14.88 ล้านล้านบาท
ด้านคุณภาพ บริษัทจดทะเบียนไทย 14 แห่งได้รับการบรรจุใน Dow Jones
Sustainability Indices (DJSI) ซึ่งสูงที่สุดในอาเซียน ขณะที่ค่าเฉลี่ยบรรษัท
ภิบาล (CG) ของบริษัทจดทะเบียนไทยจาก ASEAN CG Scorecard
เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่า บริษัทจดทะเบียนไทย ได้
ปรับปรุงแนวทางปฏิบัติด้าน CG อย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจาก https://www.thailand-business-news.com/